Tag Archives: ญี่ปุ่น

ความหมายดั้งเดิมของ 奥ゆかしい

      Comments Off on ความหมายดั้งเดิมของ 奥ゆかしい

ความหมายดั้งเดิมของ 奥ゆかしい มีที่มาอย่างไรนั้นไปดูกันเลย 日本の女性は、とても奥ゆかしくて素敵ですね!(nihon no josei ha, totemo okuyukashikute suteki desu ne!) มีใครเคยใช้คำว่า 奥ゆかしい (Okuyukashii) ในการชมสาวญี่ปุ่นบ้างไหมคะ คำนี้เป็นคำที่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยใช้กัน แต่ก็มีที่มาที่น่าสนใจมาก ๆ เมื่อลองค้นหาคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น คำว่า 奥ゆかしい แปลว่า มีเสน่ห์, ลึกลับ, น่าค้นหา, มีแรงดึงดูด โดยทั่วไปในปัจจุบันคำนี้จะให้อิมเมจถึงผู้หญิงที่มีความสง่างาม สุภาพเรียบร้อย แต่ก็ยังมีหลายคนที่ไม่เข้าใจคำจำกัดความที่แท้จริงของคำนี้ งั้นเรามาดูที่มาของคำนี้ดีกว่า คำว่า 奥ゆかしい มาจาก ゆかし และเมื่อเขียนเป็นคันจิจะกลายเป็น 行かし ซึ่งหมายถึง ไป แล้วคำว่าไป เกี่ยวอะไรกับมีเสน่ห์ ?? คำว่าไป มีความหมายโดยนัยหมายถึงความรู้สึกอยากไป หรืออยากไปมากขึ้นอีก ส่วนตัวคันจิ 奥 แปลว่า ข้างในหรือด้านใน คำว่า 奥ゆかしい ดั้งเดิมจึงหมายถึงความอยากรู้อยากเห็นในทำนองที่ว่า ไปข้างในอีก อยากเห็นมากกว่านี้ อยากรู้ อยากลอง อยากทำ หากลองจินตนาการเปรียบเทียบกับคน ความหมายดั้งเดิมจะให้ความรู้สึกเหมือนกับเด็กน้อยที่ซุกซน อยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง มากกว่าที่จะหมายถึงหญิงสาวที่ดูสง่างามเรียบร้อย… Read more »

ความหนักใจในวันรวมญาติของคนญี่ปุ่น

      Comments Off on ความหนักใจในวันรวมญาติของคนญี่ปุ่น

ความหนักใจในวันรวมญาติของคนญี่ปุ่น เพราะอะไรนั้นไปดูกันเลย เมื่อถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ หลาย ๆ คนก็คงจะได้พบปะสังสรรค์กับญาติพี่น้องกันอย่างสนุกสนาน แต่ในอีกด้านหนึ่ง บางคนก็อาจจะมีความรู้สึกเบื่อหรือไม่ชอบใช่ไหมล่ะคะ คนญี่ปุ่นเองก็เป็นเช่นกันค่ะ เมื่อถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกเหนื่อยหรือหนักใจกับการที่ต้องเตรียมกับข้าวกับปลาหรือต้องคอยเก็บกวาดทุกอย่าง เราลองไปดูผลสำรวจจากเว็บไซต์ Sirabee กันค่ะ จากการสำรวจหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นในช่วงอายุ 10 – 60 ปีจำนวน 1,798 คน ในหัวข้อ “รู้สึกหนักใจหรือไม่เมื่อต้องพบปะญาติ ๆ ในช่วงปีใหม่” ซึ่งมีจำนวนถึง 55.8% ที่ตอบว่ารู้สึกหนักใจ ในจำนวนเกือบ 60% นี้แบ่งเป็นผู้ชาย 49.8% และผู้หญิง 61.1% จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงเสียมากกว่า เมื่อแบ่งตามช่วงอายุ พบว่า ช่วงอายุที่มีสัดส่วนมากที่สุดคือผู้หญิงในวัย 40 ปี 70.1% ตามด้วยผู้หญิงในวัย 50 ปี 67.1% สังเกตได้ว่าสัดส่วนของผู้หญิงจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป ในส่วนของผู้ชายนั้นจะมีสัดส่วนสูงที่สุดในวัย 30 ปี 58.2% และวัย 40 ปี 58.7% การที่บรรดาญาติ ๆ มาพบปะสังสรรค์กันที่บ้านนั้น แน่นอนว่าที่บ้านก็จะต้องวุ่นวายกับการจัดเตรียมอาหารรวมถึงการเก็บกวาดล้างจานชามหลังจากทานเสร็จ… Read more »

เหตุผล 5 ข้อ ที่คนรู้ภาษาญี่ปุ่นควรเรียนภาษาเกาหลี

      Comments Off on เหตุผล 5 ข้อ ที่คนรู้ภาษาญี่ปุ่นควรเรียนภาษาเกาหลี

เหตุผล 5 ข้อ ที่คนรู้ภาษาญี่ปุ่นควรเรียนภาษาเกาหลี เพราะอะไรนั้นไปดูกันเลย เพื่อน ๆ พี่น้องที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ มีใครเป็นติ่งเกาหลีบ้างสารภาพมาซะดี ๆ 555 ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ากระแสเกาหลียังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะบูมมาหลายปีแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในฝั่งยุโรปอเมริกาที่ดูเหมือนว่าจะเปิดใจรับวัฒนธรรมเกาหลีผ่านดนตรีเคป็อป ซีรีส์ และภาพยนตร์มากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก กระแสเกาหลีบูมทำให้หลาย ๆ คนอยากเรียนภาษาเกาหลีขึ้นมา แต่ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา โดยเฉพาะคนท่ีเลือกเรียนภาษาอื่นเป็นภาษาที่สามไปแล้วก็คงไม่อยากเพิ่มภาระให้ตัวเองด้วยการเริ่มเรียนภาษาใหม่เร็ว ๆ นี้ แต่รู้หรือเปล่าว่าถ้าเพื่อน ๆ มีพื้นภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้วละก็ การเรียนภาษาเกาหลีก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด! เรามาดูเหตุผล 5 ข้อที่คนรู้ภาษาญี่ปุ่นควรเรียนภาษาเกาหลีกันดีกว่า… ภาษาญี่ปุ่นมีรูปแบบการเรียงประโยคที่ทำเอาหลายคนมึนตึ้บมาแล้ว นั่นคือ ประธาน + กรรม + กริยา ดังนั้นแทนที่จะเป็น “ฉัน กิน ข้าว” แบบภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ก็กลายเป็น “ฉัน ข้าว กิน” กว่าจะชินกับรูปประโยคแบบนี้ก็ล่อไปหลายเดือนเหมือนกัน ด้วยความที่ภาษาเกาหลีเป็นภาษาที่เรียงประโยคแบบเดียวกับญี่ปุ่นเป๊ะ แถมมี “คำช่วย” คั่นอยู่ระหว่างกลางเหมือนภาษาญี่ปุ่นอีกต่างหาก ถ้าเพื่อน ๆ คุ้นเคยกับภาษาญี่ปุ่นจนแม่นการเรียงประโยคแบบนี้แล้ว การเรียนรู้ที่จะเรียงประโยคเป็นภาษาเกาหลีก็ไม่ใช่เรื่องวุ่นวายเลย คำช่วย (助詞;… Read more »

คนญี่ปุ่นไม่ชอบให้เพื่อนมานอนค้างที่บ้านจริงหรือ ?

      Comments Off on คนญี่ปุ่นไม่ชอบให้เพื่อนมานอนค้างที่บ้านจริงหรือ ?

คนญี่ปุ่นไม่ชอบให้เพื่อนมานอนค้างที่บ้านจริงหรือ ? เพราะอะไรนั้นไปดูกันเลย การมีเพื่อนสนิทมานอนค้างที่บ้านของเราก็ถือเป็นเรื่องสนุกอย่างนึงใช่ไหมคะ ได้คุยได้เล่นกันทั้งวันทั้งคืนโดยที่ไม่ต้องสนใจเวลา แต่ว่าในทางกลับกัน ก็ต้องคอยดูแลเทคแคร์เพื่อนจนรู้สึกเหนื่อยได้เหมือนกัน ทางเว็บไซต์ SIRABEE ได้จัดทำแบบสำรวจหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศในช่วงอายุระหว่าง 10 – 60 ปีจำนวน 1,733 คน ในหัวข้อ “รู้สึกเครียดหรือไม่ที่มีเพื่อนมานอนค้างที่บ้าน” และคนที่ตอบว่ารู้สึกเครียดนั้นมีถึง 50.5% เรียกได้ว่าครึ่งต่อครึ่งเลยล่ะค่ะ เมื่อแยกเป็นเพศแล้วจะพบว่า มีเพศชาย 44.5% และเพศหญิง 55.8% อีกทั้ง เมื่อลองแยกทั้งเพศและช่วงอายุออกมาแล้วก็จะพบว่า สัดส่วนที่เยอะที่สุดคือเพศหญิงในช่วงอายุ 50 ปี 72.8% รองลงมาคือเพศหญิงในช่วงอายุ 30 ปี 63.3%, เพศหญิงในช่วงอายุ 60 ปี 56% และเพศหญิงในช่วงอายุ 40 ปี 55.5% ตามลำดับ ในแต่ละช่วงอายุนั้นก็มีความแตกต่างกัน แต่สัดส่วนจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป และในทุกช่วงอายุ สัดส่วนของเพศหญิงจะมากกว่าเพศชายเสมอ เมื่อมีเพื่อนมานอนค้างที่บ้าน ก็เป็นธรรมดาที่เจ้าบ้านอย่างเราจะมีความรู้สึกว่าต้องดูแลเทคแคร์เพื่อนอย่างเต็มที่ แต่พอต้องคอยมาเอาใจใส่มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็กลายเป็นว่าอาจจะทำให้เรารู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจขึ้นมาก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ต้องซักหรือจานชามที่ต้องล้างมากกว่าปกติ สำหรับในหมู่เด็กวัยรุ่นนั้น เพื่อนที่มานอนค้างส่วนใหญ่แล้วก็จะช่วยทำงานบ้านเหล่านี้ซึ่งก็เป็นการช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าและความเครียดลงได้บ้าง เมื่อลองมาดูที่ปัจจัยเรื่องรายรับต่อปีนั้น… Read more »

ความหมายที่มาของสำนวน 一か八か ทำไมต้อง 1 กับ 8?

      Comments Off on ความหมายที่มาของสำนวน 一か八か ทำไมต้อง 1 กับ 8?

ความหมายที่มาของสำนวน 一か八か ทำไมต้อง 1 กับ 8? เป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลย 一か八か (いちかばちか : ichika bachika) ในพจนานุกรม แปลว่า หมู่หรือจ่า, หัวหรือก้อย หรืออย่างที่เราเข้าใจกันว่าหมายถึงการวัดดวง ลองเสี่ยงดวง จริง ๆ แล้วคำนี้ใช้กันในหลากหลายรูปแบบเหมือนภาษาไทย ไม่ว่าจะเรื่องงาน การสอบ หรือการพนัน สำหรับภาษาไทย ส่วนใหญ่คงจะเข้าใจกันอยู่แล้วใช่ไหมคะว่าทำไมถึงใช้คำว่าหมู่กับจ่า หัวกับก้อย แต่ในภาษาญี่ปุ่น หากแปลตรงตัวจะแปลว่า หนึ่งหรือแปด แล้วทำไมในภาษาญี่ปุ่นถึงใช้เลข 1 กับเลข 8 ไปเรียนรู้ถึงความหมายและที่มาของสำนวนนี้กันค่ะ อันดับแรก มาดูที่ความหมายกันค่ะ 一か八か เป็นสำนวนที่หมายถึงการฝากผลลัพธ์ไว้กับโชคชะตาว่าจะออกมาเป็นแบบใด ส่วนใหญ่จะใช้เมื่อยังไม่ทราบผลของสิ่งที่กำลังจะทำ เหมือนกับในภาษาไทยเลยค่ะ สำหรับที่มาของสำนวนนี้ มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่ามาจากการเล่นพนันพื้นบ้านของญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่เรียกว่า 丁半 (ちょうはん : Jouhan) คำว่า 丁 (ちょう : Jou) หมายถึงเลขคู่ ส่วน 半 (はん : han) หมายถึงเลขคี่ วิธีการเล่นคือใช้ลูกเต๋า… Read more »

รู้หรือไม่ ทำไมจังหวัดโอคายามะ ถึงมีสมญานามว่า “ดินแดนแห่งความแจ่มใส”

      Comments Off on รู้หรือไม่ ทำไมจังหวัดโอคายามะ ถึงมีสมญานามว่า “ดินแดนแห่งความแจ่มใส”

รู้หรือไม่ ทำไมจังหวัดโอคายามะ ถึงมีสมญานามว่า “ดินแดนแห่งความแจ่มใส” มีที่มาอย่างไรนั้นไปดูกันเลย ประเทศญี่ปุ่นมีจังหวัดทั้งหมด 47 จังหวัดด้วยกัน และทุกๆ จังหวัดก็จะมีสมญานามเป็นของตัวเองด้วย ซึ่งสมญานามของแต่ละจังหวัดนั้นจะตั้งขึ้นตามลักษณะเด่นของจังหวัดนั้นๆ อย่างเช่น จังหวัดโออิตะเป็นจังหวัดที่มีบ่อน้ำพุร้อนจำนวนมากจึงมีสมญานามว่า ดินแดนแห่งออนเซน (おんせん県おおいた) เป็นต้น และแน่นอนว่าจังหวัดโอคายามะก็มีสมญานามประจำจังหวัดเช่นกัน นั่นคือ “ดินแดนแห่งความแจ่มใส (晴れの国おかやま)” นั่นเอง แต่เพื่อนๆ สงสัยไหมว่าเพราะเหตุใดจังหวัดโอคายามะจึงได้รับสมญานามเช่นนั้น? วันนี้เราจะไปหาคำตอบนั้นกันครับ “โอคายามะ ดินแดนแห่งความแจ่มใส” ฉายาดังกล่าวนี้เริ่มเรียกติดปากกันมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นยุคสมัยเฮเซ ในปี ค.ศ. 1989 โดยเหตุอันเป็นที่มาของฉายาดังกล่าวนั้นว่ากันว่าอาจมาจาก 4 สาเหตุ ดังนี้ เป็นจังหวัดที่มีวันที่สภาพอากาศแจ่มใสมากกว่าจังหวัดอื่นๆเป็นจังหวัดที่มีสภาพอากาศอบอุ่นและเกิดภัยพิบัติน้อยเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยของอร่อยเป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติเนื่องจากโอคายามะเป็นจังหวัดที่มีวันที่สภาพอากาศแจ่มใสมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ทำให้พืชผลทางการเกษตรต่างๆ ที่ปลูกในจังหวัดนี้ ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ ต่างก็มีรสชาติหอมอร่อยถูกปากผู้คนจำนวนมาก นอกจากนี้ ด้วยสภาพอากาศที่แจ่มใส ยังส่งผลให้ต้นไม้ ดอกไม้ และทุ่งหญ้าเจริญเติบโตได้อย่างอุดมสมบูรณ์อีกด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้โอคายามะเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยของอร่อยและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาตินั่นเอง แต่ทว่า หากพิจารณากันตามข้อเท็จจริงในแง่สถิติของสำนักอุตุนิยมวิทยาแล้ว จังหวัดที่มีวันที่สภาพอากาศแจ่มใสมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่นดูเหมือนจะไม่ใช่จังหวัดโอคายามะ สำนักอุตุนิยมวิทยาของประเทศญี่ปุ่นได้ให้คำนิยามของคำว่า “อากาศแจ่มใส” ไว้ 2 ความหมาย ดังนี้ 1. วันที่มีปริมาณเมฆบนท้องฟ้าน้อยกว่า 10% จะเรียกว่าสภาพอากาศแจ่มใสแบบ “ไคเซ (快晴)”2…. Read more »

รู้ไว้ใช่ว่า ภาษาญี่ปุ่น 6 คำ ที่ผู้ชายญี่ปุ่นใช้เรียนภรรยา เวลาคุยกับคนอื่น

      Comments Off on รู้ไว้ใช่ว่า ภาษาญี่ปุ่น 6 คำ ที่ผู้ชายญี่ปุ่นใช้เรียนภรรยา เวลาคุยกับคนอื่น

รู้ไว้ใช่ว่า ภาษาญี่ปุ่น 6 คำ ที่ผู้ชายญี่ปุ่นใช้เรียนภรรยา เวลาคุยกับคนอื่น มีคำว่าอะไรบ้างไปดูกันเลย สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่เป็นผู้ชาย (อะแฮ่ม) ท่านเคยสังเกตไหมครับว่าเวลาที่ท่านพูดถึงคู่ครอง พูดถึงคนที่บ้านของท่านให้คนอื่นฟัง ท่านใช้คำนามเรียกขานคู่ครองของท่านว่าอะไร? สำหรับคนไทย เรามีคำอยู่หลักๆ สามคำสามระดับ “เมีย” เป็นคำไทย ที่ฟังดูบ้านๆ แต่บางครั้งด้วยความที่คำนี้ถูกใช้สื่อความหมายในทางหยาบโลน (เกี่ยวกับเซ็กซ์ เพศสัมพันธ์) ชายไทยหลายคนจึงหันมาใช้คำยืมภาษาอังกฤษคือคำว่า “แฟน” เพื่อสื่อความแบบเป็นคำกลางๆ คือไม่หยาบหรือดูชาวบ้านมากไป และไม่ฟังเป็นทางการมากเกินไปเหมือนคำว่า “ภรรยา” ซึ่งจริงๆ แล้วมาจากภาษาสันสกฤตว่า ภารฺยา (ซึ่งเมื่อบิดเสียงไปตามสำเนียงภาษาบาลีว่า “ภริยา” จะกลายเป็นคำยกย่องหมายถึงภรรยาของคนใหญ่คนโตหรือคนที่ต้องให้ความเคารพไปเสีย ทั้งที่จะว่าไปแล้ว ภรรยา ก็ดี ภริยา ก็ดี ล้วนเป็นคำเดียวกัน เพียงแต่ต่างสำเนียงภาษาเท่านั้นเอง) แต่ผู้ชายญี่ปุ่นสมัยนี้ มีคำนามเรียกขาน “คู่ครอง” ให้ใช้ตั้ง 6 คำแน่ะครับ! แต่ก็นะครับ เช่นเดียวกับภาษาไทย คำต่างๆ มันก็มีความหมาย (ทั้งในทางคำศัพท์และในทางสังคม) ต่างๆ กันไป มาดูกันเลยดีกว่าครับ  คำนี้ถือว่าเป็นคำสามัญที่สุดที่สามีใช้เรียกภรรยาของตัวเอง ซึ่งถูกใช้มานานแล้วตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีระบบการจดทะเบียนสมรส โดยช่วงก่อนสมัยเมจิ ส่วนใหญ่จะเรียกว่า “ไซ”… Read more »

รู้หรือไม่? เหตุใดคนญี่ปุ่นถึงพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้

      Comments Off on รู้หรือไม่? เหตุใดคนญี่ปุ่นถึงพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้

รู้หรือไม่? เหตุใดคนญี่ปุ่นถึงพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ เป็นเพราะอะไรนั้นไปดูกันเลย ภาษาอังกฤษ ภาษากลางที่ใช้สื่อสารกันทั่วโลกในแทบทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การเจรจาทางธุรกิจ หรือการดำเนินกิจการระหว่างประเทศก็มักจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการสื่อสารเสมอ ประเทศญี่ปุ่นแม้จะเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลกทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการท่องเที่ยว แต่กลับมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงสงสัยใช่ไหมครับว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ดังนั้นวันนี้ เราจะไปหาคำตอบนั้นกันครับ แต่เดิมคนญี่ปุ่นจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ช่วงมัธยมตั้น แต่พอเข้าสู่ปี 2011 ทางรัฐบาลก็ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายเกี่ยวกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษใหม่ โดยบังคับให้โรงเรียนต้องมีการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษในเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 5 แต่หลังจากนั้น พอเข้าสู่ปี 2020 ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายอีกครั้ง โดยบังคับให้ต้องมีการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษในเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 3 โดยจะเน้นไปที่การเรียนการสอนผ่านเกมหรือเพลงเป็นหลัก เพื่อให้เด็กๆ คุ้นชินกับภาษาอังกฤษไปทีละนิด โดยไม่เน้นการสอบวัดผลการเรียน หลังจากนั้นตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 5 เป็นต้นไป จะเริ่มมีการเรียนการสอนที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยแต่ละโรงเรียนต้องใช้ตำราเรียนตามที่รัฐบาลกำหนดไว้และจะมีการสอบวัดผลการเรียนด้วย 1. เพราะคนญี่ปุ่นเน้นความสมบูรณ์แบบคนญี่ปุ่นจำนวนมากจะมีคติว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องทำให้สมบูรณ์แบบและห้ามผิดพลาด ดังนั้น หากเจ้าตัวรู้สึกว่าสำเนียงการออกเสียงยังไม่ค่อยชัดเจน หรือไม่แม่นยำในเรื่องการใช้ไวยากรณ์ ก็ไม่ค่อยอยากจะสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษ เพราะการให้คู่สนทนาฟังการพูดภาษาอังกฤษที่อาจเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดและขาดความสมบูรณ์แบบนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ 2. เพราะการพูดผิดมันเป็นเรื่องน่าอายคนญี่ปุ่นจำนวนมากคิดว่าถ้าออกเสียงหรือเรียบเรียงโครงสร้างประโยคผิด คงจะถูกหัวเราะเยาะหรือถูกล้อเลียนแน่ๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆ หรือหากกล่าวอีกแง่หนึ่งก็คือใส่ใจความรู้สึกของคู่สนทนามากจนเกินไปนั่นเอง ไม่ใช่แค่กับคนญี่ปุ่นด้วยกันเท่านั้น กับคนต่างชาติก็เช่นกัน สุดท้ายจึงขาดความกล้าที่จะสนทนาแม้กระทั่งประโยคพื้นฐาน และทำให้สูญเสียโอกาสในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตนด้วย 3. เพราะความแตกต่างของไวยากรณ์โดยพื้นฐานแล้ว ภาษาญี่ปุ่นจะเรียงโครงสร้างประโยคแบบ ประธาน กรรม กริยา แต่สำหรับภาษาอังกฤษจะเรียงโครงสร้างประโยคแบบ… Read more »

ภาษาญี่ปุ่น อุปสรรคสำคัญของชาวต่างชาติที่อยากทำงานที่ญี่ปุ่น

      Comments Off on ภาษาญี่ปุ่น อุปสรรคสำคัญของชาวต่างชาติที่อยากทำงานที่ญี่ปุ่น

ภาษาญี่ปุ่น อุปสรรคสำคัญของชาวต่างชาติที่อยากทำงานที่ญี่ปุ่น มีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้ ประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นประเทศที่ถือว่ามีสภาพแวดล้อมการทำงานที่เข้มงวดและตึงเครียด แต่จากสถิติกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมปี 2019 แสดงให้เห็นว่าจำนวนชาวต่างชาติที่ไปทำงานที่ญี่ปุ่นยังคงมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ “Japan Work” เว็บไวต์สำหรับชาวต่างชาติที่สนใจทำงานที่ญี่ปุ่นได้ทำแบบสอบถามกับชาวต่างชาติที่ทำงานต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. – 12 มี.ค. (102 คน/20 ประเทศ อายุ 10 ปี – 50ปี) โดยมีหัวข้อว่า “มุมมองจากชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศญี่ปุ่น” จากคำถาม “เคยคิดไปทำงานที่ญี่ปุ่นหรือไม่” 92.2% ของผู้ตอบแบบสอบถามนี้ตอบว่า “ใช่” โดยมี 40% เป็นชาวฟิลิปปินส์ 30% เป็นชาวเนปาล สำหรับเหตุผลของผู้ที่ตอบว่าอยากทำงานนั้นมีหลากหลาย เช่น “เคยสอนออนไลน์ภาษาอังกฤษและสนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น และคิดว่าเป็นประเทศที่คนต่างชาติอาศัยได้อย่างปลอดภัย” (ชาวฟิลิปปินส์ 30 ปี) “ชอบชีวิตและวัฒนธรรมของญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นใจดีและเศรษฐกิจก็ก้าวหน้า ถ้ามีโอกาสก็อยากไปทำงาน” (ชาวเนปาล 30 ปี) “ได้เรียนมาทางด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และมีความสนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่นมานาน (ชาวฝรั่งเศส 20 ปี)” นอกจากความเห็นด้านสังคมและวัฒนธรรมแล้ว ยังมีความเห็นในเรื่องรายได้ด้วย เช่น “ตอนไปทำงานพิเศษที่ญี่ปุ่น… Read more »

รู้หรือไม่? สตาร์บัคส์ญี่ปุ่นมีเมนูเครื่องดื่มสำหรับเด็กเล็กด้วยนะ

      Comments Off on รู้หรือไม่? สตาร์บัคส์ญี่ปุ่นมีเมนูเครื่องดื่มสำหรับเด็กเล็กด้วยนะ

รู้หรือไม่? สตาร์บัคส์ญี่ปุ่นมีเมนูเครื่องดื่มสำหรับเด็กเล็กด้วยนะ เป็นยังไงนั้นไปดูกันเลย คุณแม่ลูกอ่อนทั้งหลายมาทางนี้ค่า….ไหนใครเคยมีประสบการณ์อยากจะไปนั่งชิล ๆ จิบเครื่องดื่มอร่อย ๆ ในร้านสตาร์บัคส์แต่แล้วต้องถอดใจเพราะกังวลว่าจะหาเครื่องดื่มให้กับเจ้าตัวเล็กไม่ได้บ้างคะ? วันนี้ขอนำเสนอเมนูลับ ๆ ของสตาร์บัคส์ญี่ปุ่นที่น้อยคนนักจะรู้ว่ามีอยู่มาบอกกัน เมนูสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่มีให้เลือกระหว่างนมและโกโก้ ทั้งร้อนและเย็นพร้อมเสิร์ฟ ในเมนูดังกล่าว จะมีให้เลือกทั้งแบบร้อนขนาด 240ml และเย็นขนาด 300ml โดยใช้นมสำหรับเด็กโดยเฉพาะ หากสั่งแบบร้อนก็จะเสิร์ฟมาให้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 54℃ (ผู้ใหญ่จะเสิร์ฟที่อุณหภูมิประมาณ 66-77℃) เป็นอุณหภูมิที่เด็กดื่มได้ง่าย ส่วนแบบเย็นก็สามารถเลือกว่าจะใส่น้ำแข็งเพิ่มหรือไม่ และใช้หลอดแบบงอได้เพื่อให้เด็กดื่มได้ง่ายขึ้น ราคา 170 เยน (ไม่รวมภาษี) สำหรับเมนูโกโก้ สามารถขอเพิ่มช็อกโกแลตและคาราเมลได้ฟรี หากต้องการเปลี่ยนจากนมสดเป็นนมถั่วเหลืองเพิ่ม 50 เยน หรือถ้าอยากเพิ่มความหวานให้กับเครื่องดื่มทั้ง 2 เมนูนี้ ก็สามารถเติมน้ำผึ้งที่วางไว้ตรงเคาน์เตอร์ได้ไม่อั้นเช่นกัน be juicy! Kids เครื่องดื่มน้ำผลไม้ที่เป็นสินค้าออริจินัลจากสตาร์บัคส์ญี่ปุ่นที่ผลิตโดยคาโกเมะ มีให้เลือกระหว่างน้ำส้มและน้ำแอปเปิ้ลคั้น 100% ไม่มีน้ำตาล ไม่ปรุงแต่งสีหรือรส ราคา 190 เยน (ไม่รวมภาษี) นอกจากเมนูเครื่องดื่มแล้ว ภายในร้านยังมีเมนูที่เด็ก ๆ เลือกทานได้ เช่น โดนัทและพุดดิ้ง… Read more »