สวัสดีค่ะ แฟนเพจ WakuWaku Blog ทุกท่าน นอกจากความแตกต่างในเรื่องของวัฒนธรรมและมารยาทในการทำงานแล้วของชาวญี่ปุ่นกับประเทศอื่นๆ แล้ว วันนี้เราจะมายกตัวอย่างความแตกต่างของบริษัทญี่ปุ่นและบริษัทฝรั่งให้ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถมาติดตามกันได้ในบล็อกนี้ได้เลยค่ะ 1. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ลักษณะการทำธุรกิจของบริษัทญี่ปุ่นนั้นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปพบ พูดคุย ดูแล รวมทั้ง support งานในเรื่องต่างๆ ซึ่งจุดประสงค์นั้นก็เพื่อที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเอาไว้ทำให้เค้าอยู่กับธุรกิจไปนานๆ นอกจากนี้ยังเน้นไปที่การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อรักษาความสัมพันธ์แบบระยะยาว แต่ในขณะเดียวกันบริษัทฝรั่งส่วนใหญ่นั้นจะเน้นไปที่การทำกำไรและลดระยะเวลาให้สั้นที่สุดนั่นเองค่ะ 2. ความมั่นคงในการทำงาน ในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับพนักงานนั้น หลายๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่าหากได้ก้าวเข้าไปทำงานร่วมกับบริษัทญี่ป่นแล้ว เขาจะดูแลเราเหมือนเป็นครอบครัวและจะไม่ให้ใครออกง่ายๆ หากบุคคลนั้นไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงมากจริงๆ ในขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทฝรั่งแล้ว ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ประสิทธิภาพในการทำงานหรือผลงานของพนักงานคนนั้นมากกว่า ดังนั้นหากผลงานที่ทำออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ ทำให้พนักงานต้องมีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลานั่นเองค่ะ 3. มีกระบวนการทำงานอย่างเป็นระบบ โดยส่วนใหญ่แล้วการทำงานแบบญี่ปุ่นมักจะมีขั้นตอนและกระบวนการในการทำงานที่ชัดเจน มีการวางแผนร่วมกันภายในทีมว่าใครรับผิดชอบส่วนไหน จะดำเนินการอย่างไร และงานจะเสร็จเมื่อไร ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการติดตามการดำเนินงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อเป็นการตรวจสอบว่าจากที่ดำเนินตามขั้นตอนที่วางแผนไว้นั้นเกิดปัญหาตรงไหนบ้าง เพื่อที่เวลาเกิดปัญหาขึ้นมาจะได้หาแนวทางในการแก้ไขได้ทัน ในขณะเดียวกันก็มีการปรึกษาคิดหาวิธีในปรับปรุงการทำงานของตัวเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอเพื่อให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ และนี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างที่เราได้นำมาเสนอให้กับทุกท่านนะคะ ซึ่งจริงๆ แล้วความแตกต่างระหว่างบริษัทญี่ปุ่นและบริษัทฝรั่งนั้นยังมีอีกมากมาย มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือไม่ว่าเราจะเข้าไปอยู่ในองค์กรแบบไหน เราก็จะต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับองค์กรนั้นให้ได้มากที่สุด รวมทั้งทำความเข้าใจและยอมรับในเรื่องของวัฒนธรรมและมารยาทในการทำงานขององค์กรเช่นกัน สุดท้ายนี้อย่าลืมนะคะ หากท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถทางด้านภาษาญี่ปุ่น มีความสนใจและกำลังมองหางานในบริษัทญี่ปุ่นอยู่ ทางเว็บไซต์ WakuWaku ก็พร้อมที่จะเป็นตัวช่วยให้ท่านได้พบกับงานในฝันได้แน่นอนค่ะ สำหรับท่านใดที่มีความสนใจอยากจะลงทะเบียนกับเว็บไซต์ของเรา สามารถเข้ามาสร้าง Resume กันได้ที่… Read more »
สวัสดีค่ะ แฟนเพจ WakuWaku Blog ทุกท่าน กลับมาเจอกันอีกเช่นเคยนะคะ สำหรับวันนี้แอดมินก็มีสาระดีๆ มานำเสนอทุกท่านกันอีกเช่นเคยค่ะ โดยวันนี้ เราจะมานำเสนอ 5 เคล็ดลับในการเรียนภาษาญี่ปุ่น สำหรับผู้ที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่นั่นเองค่ะ น่าสนใจมากๆ เลยใช่มั้ยล่ะคะ มาติดตามกันได้ในบล็อกนี้เลยค่ะ 1. หาแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง แรงบันดาลใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเรียนภาษาเพราะมันเปรียบเสมือนกับแรงผลักดันที่ทำให้เรามีความอยากที่จะเรียนและอยากที่จะพัฒนาทักษะทางด้านภาษาของตัวเอง ทำให้เรามุ่งมั่น ตั้งใจ มีแรงฮึดสู้ และที่สำคัญคือรู้ว่าเราจะเรียนไปเพื่ออะไร ดังนั้นทุกคนที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่ ลองกลับมานึกดูนะคะว่าทำไมเราถึงเลือกเรียนภาษาญี่ปุ่น เรียนไปเพื่ออะไร แล้วนำสิ่งนี้มาเป็นแรงบันดาลใจผลักดันตัวเองในการเรียนภาษาญี่ปุ่นกันนะคะ 2. ดูหนัง ละคร ซีรีย์ หรือมังงะญี่ปุ่น การดูหนัง ละคร ซีรีย์ หรือมังงะญี่ปุ่น ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของผู้ที่เรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะเทคนิคนี้ นอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว ยังทำให้เราได้ฝึกทักษะทางด้านการฟัง รวมทั้งสำเนียงและการใช้ประโยคที่เค้าพูดกันจริงๆ ด้วยค่ะ น่าสนใจมากๆ เลยใช่มั้ยคะ ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองนำไปใช้กันดูนะคะ 3. ใช้โทรศัพท์มือถือให้เป็นประโยชน์ ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะด้านการศึกษา ทำให้การเรียนรู้ในปัจจุบันเกิดความสะดวก รวดเร็ว และง่ายดายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชั่นสำหรับเรียนภาษาต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่มีอยู่หลากหลายประเภท หลากหลายรูปแบบให้เราได้โหลดมาใช้กัน ซึ่งก็มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ในเมื่อเรามีอุปกรณ์อยู่ในมือแล้ว ลองใช้ช่องทางนี้ในการเรียนภาษาญี่ปุ่นดูสิคะ เพราะนอกจากจะสะดวกและง่ายดายแล้ว… Read more »
สวัสดีค่ะ แฟนเพจ WakuWaku Blog ทุกท่าน ชาวญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นชาติที่มีระเบียบวินัยมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน ดังนั้นหากเราอยากที่จะเข้าไปทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแล้วละก็อาจจะต้องอาศัยการปรับตัวและเรียนรู้เพื่อที่เวลาอยู่กับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานชาวญี่ปุ่นจะได้ไม่ต้องรู้สึกกดดันและอยู่ด้วยกันนานๆ ได้นั่นเองค่ะ และในวันนี้เราจะมาพูดกันถึงตัวอย่างของวัฒนธรรมและมารยาทในการทำงานในบริษัทญี่ปุ่นให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ สามารถมาติดตามกันได้ในบล็อกนี้ได้เลยค่ะ 1. การตรงต่อเวลา เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วค่ะว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนที่มีความตรงต่อเวลาสูงมาก เนื่องจากพวกเขาได้รับการปลูกฝังวินัยเรื่องการตรงต่อเวลามาตั้งแต่เด็กๆ เพราะหากมาสายจะถือเป็นการไม่ให้เกียรติคนที่เรานัดไว้และอาจจะส่งผลให้เค้าเดือดร้อนในภายหลังได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น รถไฟของญี่ปุ่นที่จะมีบอกเวลามาถึงที่แน่นอน ทำให้ผู้โดยสารอย่างเราๆ สามารถกะและคำนวณเวลาได้ เป็นต้น ดังนั้นสำหรับใครที่อยากจะเข้าไปทำงานกับคนญี่ปุ่นห้ามสายเด็ดขาดเลยนะคะ 2. ความพิถีพิถันและความละเอียดอ่อน นอกจากเรื่องของการตรงต่อเวลาแล้ว เรื่องความพิถีพิถันตั้งใจและเรื่องของความละเอียดอ่อนของคนญี่ปุ่นก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกเลยนะคะ ตัวอย่างเช่น ความพิถีพิถันในเรื่องของอาหารและขนมหวานที่เชฟแต่ละท่านดูจะตั้งอกตั้งใจเพื่อสรรค์สร้างจานเด็ดมาให้เราได้ลิ้มรสกัน ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ แต่ในขณะเดียวกันสำหรับส่วนของการทำงานนั้นหลายๆ คนที่ทำงานกับคนญี่ปุ่นก็จะรู้สึกได้ว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนที่ค่อนข้างจะละเอียดในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆก็ตาม ซึ่งอาจจะมีจู้จี้จุกจิกบ้างเล็กน้อย 3. การทุ่มเทให้กับงาน นอกจากสองเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ประเทศนี้ก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ทำงานหนักมาก สำหรับใครที่เคยทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นมาก่อนจะทราบดีว่าคนญี่ปุ่นนั้นมักจะไม่ค่อยเลิกงานตรงตามเวลาปกติเท่าไหร่ บางครั้งก็สองทุ่ม สามทุ่ม หรือมากกว่านั้น ซึ่งบางสาเหตุก็มาจากการที่หัวหน้าคุณยังไม่กลับ คุณก็ยังกลับไม่ได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่กฏระเบียบของบริษัทแต่อย่างใดแต่กลับกลายเป็นเหมือนธรรมเนียมของประเทศนี้ไปเสียแล้วค่ะ นี่เป็นเพียงตัวอย่างเพียงเล็กน้อยที่เราได้นำมาเสนอให้กับทุกท่านได้อ่านกัน ซึ่งเรื่องของวัฒนธรรมและมารยาทในการทำงานนั้นนับว่าเป็นสิ่งสำคัญมากในสังคมการทำงานของคนญี่ปุ่น ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการจะทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแล้ว สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะต้องนำมาปรับใช้ และหากเราได้มีการศึกษาและเรียนรู้มาก่อนล่วงหน้าก็จะเปรียบเสมือนการสำรวจตัวเองว่าพร้อมที่จะรับมือกับการทำงานแบบนี้ได้หรือไม่อีกด้วยค่ะ สุดท้ายนี้อย่าลืมนะคะ หากท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถทางด้านภาษาญี่ปุ่น มีความสนใจและกำลังมองหางานในบริษัทญี่ปุ่นอยู่ ทางเว็บไซต์ WakuWaku ก็พร้อมที่จะเป็นตัวช่วยให้ท่านได้พบกับงานในฝันได้แน่นอนค่ะ สำหรับท่านใดที่มีความสนใจอยากจะลงทะเบียนกับเว็บไซต์ของเรา สามารถเข้ามาสร้าง… Read more »
สวัสดีค่ะสมาชิกแฟนเพจ WakuWaku Blog ทุกท่าน วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์จากผู้สมัครงานที่ได้ลงทะเบียนกับทางเว็บไซต์ waku.jbtalent.com ของเราแล้วได้งานสมหวังตามที่ต้องการมาแนะนำให้แฟนเพจทุกท่านได้อ่านและนำไปใช้เป็นแนวทางในการสมัครงานกับทางเว็บไซต์เพื่อให้ได้งานที่ใช่กันค่ะ มาติดตามกันได้ในบล็อกนี้เลยค่ะ… 1. ทำไมถึงเลือกใช้ WakuWaku และแตกต่างจากเว็บไซต์อื่นอย่างไร Khun Sin : ขั้นตอนและรูปแบบของเว็บไซต์ใช้งานง่ายเมื่อเทียบกับเว็บไซต์ประกาศหางานอื่นๆ เว็บไซต์ของWakuWaku ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากในการสมัครและสามารถ Live Chat กับทางบริษัทได้โดยตรงโดยเพียงแค่การกดสนใจงาน โดยรวมแล้วสะดวกและรวดเร็วกว่าเว็บไซต์อื่นๆ Khun Daw : เพื่อนได้งานจากที่นี่และแนะนำมา แล้วก็ได้ลอง search จาก google ซึ่งความแตกต่างจากเว็บไซต์อื่นก็คือของ WakuWaku ทางบริษัทได้ติดต่อมาโดยตรงผ่านทาง Live Chat และไม่ต้องผ่าน Agency ต่างๆ ซึ่งอันนี้ดีมากๆ ค่ะ เพราะว่ามันไม่ยุ่งยากและง่ายต่อการหางาน Khun Mint : อยากทดลองใช้บริการดู จริงๆ แล้วไม่ได้สมัครแค่เว็บเดียวค่ะ แต่เวลา search เว็บไซต์ WakuWaku จะขึ้นมาก่อนเมื่อ ซึ่งความแตกต่างก็คือรู้สึกว่าเวลาเรากรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อย ก็จะมีบริษัทก็เข้ามากดสนใจเราเยอะและชอบตรงที่เมื่อเขากดสนใจ เราก็สามารถกดสนใจตอบได้และสามารถคุย Live Chat ได้ด้วยค่ะ Khun Nu… Read more »
ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน การสื่อสาร การคมนาคม รวมถึงด้านการศึกษา ทำให้การเรียนรู้ในปัจจุบันเกิดความสะดวก รวดเร็ว และง่ายดายมากยิ่งขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนก็จะเป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชั่นต่างๆ บนมือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งรูปแบบของแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ก็จะมีหลากหลายจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนที่แตกต่างๆ กันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของดิกชันนารี ช่วยจำคำศัพท์ การสอบวัดระดับ การเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนอกจากสมาร์ทโฟนจะพกพาสะดวกแล้ว ยังทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาได้ตลอดทุกที่ทุกเวลาอีกด้วยค่ะ ดังนั้นวันนี้ WakuWaku ก็มี 5 แอปพลิเคชั่นดีๆ เพื่อใช้ในการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นมาแนะนำทุกคนกันค่ะ มาติดตามกันได้เลยค่ะ… 1. แอปพลิเคชั่น Japanese Thai Dictionary เป็นแอปฯค้นหาคำศัพท์ที่รวบรวมคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น-ไทยเอาไว้มากกว่า 40,000 คำ และคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น-อังกฤษเอาไว้มากกว่า 160,000 คำ ซึ่งแอปพลิเคชั่นนี้สามารถค้นหาได้ทั้ง ตัว Kanji Hiragana romanji ภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทยได้ ถือว่าสะดวกสบายมากจริงๆเลยนะคะ ที่สำคัญแอปฯนี้เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีอีกด้วยค่ะ 2. แอปพลิเคชั่น Learning Japanese เป็นแอปพลิเคชั่นฝึกเรียนภาษาญี่ปุ่น โดยผู้เรียนยังไม่จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ทางด้านภาษาญี่ปุ่นมาก่อน เพราะแอปพลิเคชั่นนี้ได้แบ่งระดับในการเรียนเริ่มตั้งแต่พื้นฐานไว้ให้เลยค่ะ นอกจากจะมีบทเรียนให้เลือกเรียนแล้ว ยังสามารถฝึกเขียนตัวอักษรต่างๆ และสามารถฟังเสียงเพื่อพูดตามได้อีกด้วยค่ะ… Read more »
สวัสดีค่ะแฟนเพจ WakuWaku Blog ทุกท่าน เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในแต่ละปีจะมีผู้ที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีออกมาพร้อมๆ กันหลายแสนคน บางคนอาจจะไปทำธุรกิจต่อจากที่บ้าน บางคนอาจจะไปศึกษาต่อเพื่อสร้างอนาคต บางคนโชคดีจบมาปุ๊บมีงานรองรับทันที แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่กำลังหางานอยู่ ซึ่งสำหรับคนที่กำลังหางานอยู่นั้นก็ไม่ใช่ส่วนน้อยนะคะเพราะก็มีอีกหลายๆ คนที่กำลังหางานอยู่เช่นกัน ดังนั้นการที่เราสร้างจุดขายให้กับตัวเองให้โดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งก็เปรียบเสมือนกับการเพิ่มโอกาสให้กับตัวเรายิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะมานำเสนอวิธีสร้างจุดแข็งที่สามารถใช้เป็นจุดขายได้ นั่นก็คือการเลือกเรียนภาษาที่สามค่ะ เพราะนอกจากการเรียนภาษาที่สามจะทำให้เรามีความสามารถพิเศษและมีทักษะทางภาษาเพิ่มขึ้นแล้ว เราก็จะได้รับโอกาสในการได้งานที่ชอบและได้งานที่ใช่ค่ะ โดยภาษาที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ก็คือภาษาญี่ปุ่นค่ะ เราลองมาดูกันนะคะว่าข้อดีของการเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้นมีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลยค่ะ โอกาสได้งานดีๆ และเพิ่มเงินเดือนให้สูงขึ้น ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าบริษัทญี่ปุ่นรวมทั้งนักธุรกิจญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยกันมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้รับความสนใจจากบริษัทญี่ปุ่นรวมทั้งนักลงทุนชาวญี่ปุ่นหลายๆ คน เพราะนอกจากประเทศไทยจะตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญแล้ว ต้นทุนการผลิตของประเทศไทยยังต่ำกว่าที่ญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และเพื่อเป็นการลดต้นทุนหลายๆ บริษัทจึงต้องจ้างพนักงานหรือบุคลากรของประเทศไทยเพื่อเป็นการลดต้นทุนทางด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วบริษัทเหล่านี้มีความต้องการที่จะจ้างบุคลากรหรือพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเกิดความราบรื่นและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังนั้นหากเราเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านภาษาญี่ปุ่นแล้วละก็เปรียบเสมือนกับการเพิ่มโอกาสที่สร้างความน่าสนใจให้กับตัวเรามากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ไม่มีความรู้ทางด้านภาษาญี่ปุ่นค่ะ เรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมใหม่ๆ วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญในการเรียนภาษาต่างประเทศ เราจึงต้องเรียนรู้วัฒนธรรมไปพร้อมกับการเรียนภาษา ในสมัยก่อนนักภาษาศาสตร์และนักมานุษยวิทยาได้กล่าวไว้ว่า ขณะที่เรากำลังพูดภาษาใดภาษาหนึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของสังคมนั้นๆ ด้วย ดังนั้นการที่เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมของเจ้าของภาษาที่เราเรียนแล้ว นอกจากจะทำให้เราสามารถเข้าใจและเข้าถึงทัศนคติ ความรู้สึกนึกคิดของเจ้าของภาษา ยังเป็นสิ่งที่ส่งผลให้เราสามารถสื่อสารและถ่ายทอดไปยังผู้รับได้ถูกต้องเหมาะสมและเป็นธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วย เช่นเดียวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่น ที่ครูผู้สอนมักจะสอดแทรกเนื้อหาหรือพยายามที่จะถ่ายทอดวัฒนธรรมเพื่อให้นักเรียนได้เข้าใจ ดังนั้นเวลาเราเรียนภาษาญี่ปุ่นเรามักจะได้เรียนรู้ ได้รู้จักวัฒนธรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละวัฒนธรรมก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจและลักษณะที่แตกต่างกันออกไปค่ะ โอกาสที่จะมีเพื่อนต่างชาติมากขึ้น การเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้นเปรียบเสมือนการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับตัวเราค่ะ นอกจากที่เราจะได้เรียนรู้ทั้งภาษาและวัฒนธรรมแล้ว ยังทำให้เรามีโอกาสได้พบ ได้พูดคุยได้รู้จักกับคนญี่ปุ่นมากขึ้น ซึ่งการมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นนั้นก็เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการเรียนภาษาญี่ปุ่นให้ดีขึ้น เพราะนอกจากเราจะได้ฝึกภาษากับเจ้าของภาษาแล้ว ยังทำให้เราได้ใกล้ชิดและเรียนรู้ทัศนคติ ความรู้สึกนึกคิดของเจ้าของภาษาได้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ ดังนั้นผู้ที่เรียนภาษาญี่ปุ่นหลายๆ คน… Read more »
สวัสดีค่ะแฟนเพจ WakuWaku Blog ทุกท่าน กลับมาพบกันอีกเช่นเคยนะคะ สำหรับวันนี้ WakuWaku จะมานำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับลักษณะนิสัยของคนแต่ละกรุ๊ปเลือดที่เหมาะกับอาชีพต่างๆ กันค่ะ ว่าคนกรุ๊ปเลือดนี้เหมาะกับอาชีพอะไร เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลางั้นเรามาติดตามกันเลยค่ะ… กรุ๊ปเลือด A สำหรับคนเลือดกรุ๊ป A นั้นเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าคนกรุ๊ป A เป็นคนที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความระมัดระวัง มีความรอบคอบ เป็นคนที่ทำอะไรสม่ำเสมอ ต้องการความมั่นคงในการใช้ชีวิต เวลาที่จะลงมือทำอะไรก็จะวิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบก่อนเสมอเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดตามมาทีหลัง นอกจากนี้ คนกรุ๊ป A ยังเป็นคนที่ไม่วอกแวก จะทำอะไรอย่างมีแบบแผนตามระบบระเบียบเงื่อนไขและมักจะใช้เหตุผลตรรกะในการตัดสินใจเป็นหลัก ส่วนในเรื่องของการทำงานนั้นก็จะต้องเป็นงานที่มีความมั่นคง และเนื่องจากคนกรุ๊ป A เป็นคนที่อ่อนไหวง่ายทำให้เมื่ออยู่ในภาวะการแข่งขันเพื่อแย่งตำแหน่งนั้น อาจจะกระทบต่อคนกรุ๊ป A ทำให้เกิดความเครียดได้ง่ายๆ ค่ะ อาชีพที่เหมาะ : ข้าราชการ เช่น ทหาร ตำรวจ ครูบาอาจารย์ ทนายความ งานธนาคาร และอาชีพอื่นๆ ที่เน้นไปที่ความมั่นคง เป็นต้น กรุ๊ปเลือด B สำหรับคนเลือดกรุ๊ป B เนื่องจากคนกรุ๊ป B เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ทำให้พวกเขาเป็นคนมีไอเดียใหม่ๆ ล้ำหน้าใครๆ อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังสามารถจับจุดได้เก่ง ชอบออกความคิดเห็นถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะออกความเห็นของตนเองโดยไม่ใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่นไปบ้าง นอกจากนี้คนกรุ๊ป B… Read more »
สวัสดีค่ะแฟนเพจ WakuWaku Blog ทุกท่าน กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ สำหรับวันนี้ WakuWaku จะมาอัพเดทบล็อกที่เราค้างกันไว้จากอาทิตย์ที่แล้วนั่นก็คือ 12 ราศีกับอาชีพที่เหมาะกับคุณ (ตอนจบ) นั่นเองค่า ต้องขอโทษสำหรับราศีที่กำลังรออยู่จากอาทิตย์ที่แล้วด้วยนะคะ อย่าเพิ่งงอนกันน้า สำหรับใครที่ยังไม่ได้ติดตามบล็อกที่แล้ว สามารถเข้าไปอ่านย้อนหลังกันได้ ที่นี่ นะคะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลางั้นเรามาติดตามต่อกันเลยค่า… คนเกิดราศีตุลย์ สำหรับชาวราศีตุลย์นั้น คุณเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม เฉียบคม มีไหวพริบ มีความว่องไว สามารถเข้าใจและเข้าถึงความคิดของคนอื่นได้ง่าย มีทักษะในการพูด และเก่งในเรื่องการโน้มน้าวจิตใจคนอื่น เป็นคนที่มีเสน่ห์ในตัวเอง ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่กับโลกภายนอก ไม่ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวนานๆ เป็นคนที่ติดตามข่าวสารเหตุการณ์บ้านเมืองตลอด และที่สำคัญแอบมีความเจ้าชู้ด้วยค่ะ ซึ่งความที่เป็นแบบนี้ทำให้คนราศีตุลย์เหมาะกับอาชีพพวกงานบันเทิง งานศิลปะ งานขายต่างๆ เป็นเจ้าของธุรกิจด้านความสวยความงาม นักดนตรี นักบรรยาย หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นต้นค่ะ คนเกิดราศีพิจิก สำหรับชาวราศีพิจิก หากดูจากภายนอก คนราศีนี้จะดูเหมือนเป็นคนที่เครียดอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นคนที่จริงจัง ทุ่มเทและเสียสละเวลาให้กับทุกสิ่งไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เวลาได้รับมอบหมายให้ทำงานใดๆ แล้วก็เหมือนจะเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองทันทีค่ะ ซึ่งจุดเด่นของชาวราศีนี้คือมีความสามารถพิเศษในการโฟกัสเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลานานๆ ต่อให้เปิดเพลงดัง หรือมีเสียงมารบกวนเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำลายสมาธิของคนราศีนี้ได้ แกร่งจริงๆ เลยนะคะเนี่ย นอกจากนี้ยังเป็นคนที่เก็บความลับได้สนิทมากจึงเหมาะที่จะทำงานกับพวกเอกสารที่เป็นความลับ งานเจรจาธุรกิจระดับสูง Top-Level หรือ Secret… Read more »
สวัสดีค่ะแฟนเพจ WakuWaku Blog ทุกท่าน กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ สำหรับวันนี้ WakuWaku ก็มีเรื่องราวดีๆ ที่จะมานำเสนอให้กับทุกท่านกันอีกเช่นเคยค่ะ สำหรับท่านใดที่กำลังมองหางานอยู่หรือยังไม่ทราบว่าตัวเองเหมาะกับสายงานประเภทไหน วันนี้เรามีอีกทางเลือกหนึ่งที่จะมาช่วยให้ท่านสามารถตัดสินใจเลือกงานได้ง่ายขึ้นกันค่ะซึ่งนั่นก็คือ งานที่เหมาะกับคนราศีต่างๆ นั่นเองค่ะ เป็นยังไงบ้างคะแค่ชื่อเรื่องก็น่าสนใจกันแล้วใช่มั๊ยคะ มาติดตามกันได้ในบล็อกนี้เลยค่ะ คนเกิดราศีเมษ สำหรับชาวราศีเมษนั้นถือได้ว่าเป็นราศีแห่งความกระตือรือร้น มีความเป็นผู้นำ ขยันขันแข็ง รักการทำงาน รักความยุติธรรม มีความตรงไปตรงมา และมีความมุ่งมั่นสูง ดังนั้นอาชีพที่เหมาะกับชาวราศีนี้ ได้แก่ การเป็นหัวหน้าคน เป็นเจ้าคนนายคน เป็นนักวางแผนหรือวางระบบต่างๆ รวมทั้งงานที่มีความท้าทายความสามารถเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น นักบริหาร นักออกแบบ นักการเมือง นอกจากนี้ คนราศีนี้ยังชอบการแข่งขัน ชอบที่จะเอาชนะคู่แข่ง และอยากเป็นที่ยอมรับจากสังคมอีกด้วยค่ะ ดังนั้นลักษณะการทำงานของชาวราศีนี้จึงไม่เหมาะกับการทำงานให้เจ้านายสักเท่าไหร่เพราะตัวคุณเองก็เปล่งราศีของความเป็นเจ้าคนนายคนออกมาอยู่แล้วค่ะ คนเกิดราศีพฤษภ สำหรับชาวราศีพฤษภถือว่าเป็นคนที่ชอบความมั่นคง มีความหนักแน่น เวลาที่จะทำอะไรก็มักจะคิดแล้วคิดอีก เป็นคนที่ละเอียดรอบคอบ มักคำนึงถึงความเป็นไปได้ และความก้าวหน้าในอนาคต ชอบแสวงหาความร่ำรวยในด้านอาชีพการงาน คนราศีนี้มักจะเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน เป็นคนที่ผู้อื่นให้ความไว้ใจ และมีจุดยืนเป็นของตัวเองทำให้ดูเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นอาชีพที่เหมาะกับชาวราศีนี้ได้แก่ ทนายความ นักกฎหมาย ตำรวจ ทหาร เป็นต้นค่ะ คนเกิดราศีเมถุน สำหรับชาวราศีเมถุนนั้นเป็นคนที่ชอบทำอะไรรวดเร็ว เนื่องจากนิสัยส่วนตัวแล้ว มักเป็นคนที่คิดเร็ว พูดเร็ว… Read more »
สวัสดีค่ะแฟนเพจ WakuWaku blog ทุกท่าน ใน blog ที่แล้ว เราพูดกันถึงเรื่องการเขียน Resume ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ไม่ให้ซ้ำกับผู้สมัครงานคนอื่นๆ กันไปแล้วนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านสามารถเข้าไปติดตามได้ ที่นี่ค่ะ เอาล่ะค่ะ สมมติว่าฝ่าย HR สนใจเรียกเราไปสัมภาษณ์ ซึ่งสามารถนับได้ว่าเราประสบความสำเร็จในการสมัครงานไปแล้ว 1 ขั้น ในลำดับต่อไป เราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานที่ดีเพื่อให้มีโอกาสได้งานที่ใช่กันค่ะ โดยในวันนี้ผู้เขียนจะมานำเสนอรูปแบบและเทคนิคในการเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์งานค่ะ ก่อนอื่นผู้สมัครงานทุกท่านจะต้องเข้าใจกันก่อนนะคะว่าการสัมภาษณ์งานนั้นมีอยู่หลากหลายรูปแบบมาก หากผู้สมัครรู้ว่าตนเองจะถูกสัมภาษณ์ในลักษณะใดก็จะได้เตรียมตัวรับมือได้อย่างถูกต้องนั่นเองค่ะ โดยในวันนี้ผู้เขียนขอสรุปรูปแบบในการสัมภาษณ์งานคร่าวๆ ออกเป็น 5 รูปแบบ ลองติดตามกันดูนะคะ รูปแบบการสัมภาษณ์งาน 1. การสัมภาษณ์งานทางโทรศัพท์ (Phone Interview) การสัมภาษณ์งานทางโทรศัพท์นั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการสอบถามข้อมูลธรรมดาทั่วไปค่ะ เช่น คุณสมบัติเบื้องต้นหรือความสนใจของผู้สมัคร เพื่อที่จะดูว่าผู้สมัครนั้นมีคุณสมบัติตรงกับงานที่ประกาศรับสมัครหรือไม่ ซึ่งเป็นการคัดกรองผู้สมัครเบื้องต้นค่ะ บางครั้งอาจจะมีการโทรมาสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษเพื่อทดสอบทักษะทางด้านภาษา หรือทดลองถามคำถามบางอย่างเพื่อดูทัศนคติ ความคิดและทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เป็นต้นค่ะ โดยการสัมภาษณ์ชนิดนี้จะเรียกว่า “Screening Interview” หมายถึงการกลั่นกรองเอาผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ จากนั้นหากผู้สัมภาษณ์รู้สึกสนใจในตัวผู้สมัครก็จะทำการนัดไปสอบสัมภาษณ์แบบใดแบบหนึ่งที่หน่วยงานหรือที่บริษัทในรอบต่อไปค่ะ 2. การสัมภาษณ์งานแบบบุคคลต่อบุคคล (Individual Interview) การสัมภาษณ์งานแบบบุคคลต่อบุคคลเป็นชนิดที่ใช้กันทั่วไปสำหรับหน่วยงานหรือบริษัทที่ต้องการคัดเลือกพนักงานในระดับทั่วๆ ไป ในตำแหน่งงานที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งการสัมภาษณ์ดังกล่าวนี้ ผู้สัมภาษณ์จะติดต่อนัดหมายให้ผู้สมัครไปทำการสัมภาษณ์ตัวต่อตัว… Read more »
